เครื่องปรับอากาศกับสุขภาพผม
โดยธรรมชาติแล้วบ้านเราแดดแรง ปัญหาพื้นฐานจึงหนีไม่พ้นปัญหาผมแห้งจากการโดนแดดและรังสี UVA และ UVB ในแสงแดด ยิ่งสาวออฟฟิศที่ต้องตามเทรนด์ผมใหม่ๆ ก็ต้องมีการทำสีซึ่งทำให้ผมต้องสัมผัสกับไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ไหนทุกเช้าจะต้องสระผม ดราย หนีบ ยี ม้วน สารพัดกระบวนการมากันครบ เพื่อเซตผมให้สวยทุกวัน
นอกจากกระบวนการทำร้ายผมที่เห็นกันได้ชัด ๆ แล้ว ยังมีสาเหตุหลักๆ ที่ทำลายเส้นผมให้แห้งเสียโดยไม่รู้ตัวอีก ซึ่งหลายคนคงคาดไม่ถึง นั่นคือ
“การอยู่ในห้องแอร์”
การอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาทำให้ผมแห้งได้ เพราะการอยู่ในห้องแอร์ทำให้ผมสูญเสียความชุ่มชื้น และอากาศในห้องแอร์มีความชื้นน้อย ทำให้ในช่วงชั่วโมงแรกๆ ที่อยู่ในห้องแอร์ต่อมไขมันที่หนังศีรษะจะจับสัญญาณได้ว่าตอนนี้ร่างกายอยู่ในที่แห้งและเย็น จึงขับไขมันออกมาเพื่อรักษาและกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ ทำให้ช่วงโคนผมจะเริ่มมัน สักพักเมื่อต่อมไขมันขับไขมันออกมามากจนล้า ก็เลิกขับ ไขมันจึงออกมาไม่ถึงปลายเส้นผม ทำให้ปลายผมเริ่มแห้ง
ปัญหาจะยิ่งมีมากขึ้น ในรายที่อยู่ในห้องแอร์สลับกับการออกไปโดนแดด เช่น การออกไปนอกออฟฟิศในช่วงพักกลางวัน เพราะทำให้ต่อมไขมันทำงานรวนมากขึ้นไปอีก
พฤติกรรมทำผมแห้งเสีย
ยิ่งผมแห้งเสีย หลายคนยิ่งหาทางออก แต่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุทำให้ปัญหายิ่งลุกลาม ทำให้ผมแห้งกรอบ แตกปลาย เปราะขาดง่าย สาวๆ ที่มีผมแตกปลายหลายคนแก้ปัญหาโดยการมัดผม ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย
เพราะการมัดผมทำให้เกิดแรงเหนี่ยวรั้ง ทำให้หนังศีรษะตึง ทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงหนังศีรษะได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งมีผลต่อการควบคุมต่อมไขมันบนหนังศีรษะ เพราะสุขภาพหนังศีรษะที่ดีต้องมีการไหลเวียนของเลือดที่ดีและเพียงพอมาหล่อเลี้ยงด้วย แนะนำว่า ถ้าผมแห้งเสีย แตกปลาย ให้ตัดผมส่วนนั้นออก เพราะไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาดีดังเดิมได้ แล้วเลิกมัดผมสักระยะหนึ่ง ปล่อยผมสบายๆ จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพผมได้ดีกว่า
นอกจากนี้การสระผมไม่ถูกวิธีก็เป็นสาเหตุของผมแห้งเสีย ใครที่คิดว่าการสระผมบ่อย ๆ เป็นการทำความสะอาดเส้นผมและได้บำรุงผมทุกวัน อาจไม่ถูกต้องนักโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไม่รู้จักเลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับผมแห้งเสียหนังศีรษะมีค่าพีเอชเป็นกรด คือ 5.5 รากผมก็มีค่าพีเอชเป็นกรดเช่นกัน คือ 3.6 แชมพูที่มีความเป็นด่างมากเกินไปทำให้สภาพความเป็นกรดของเส้นผมและ
หนังศีรษะถูกทำลายโดยด่างจากแชมพู Cuticle ที่หุ้มผมเกิดการหลุดลอก ผมเปราะบาง เกิดเป็นผมแตกปลาย ไม่สามารถรักษาสภาพของ Cuticle ให้มีสุขภาพดีเอาไว้ได้ ยิ่งสระผมบ่อย ผมจะยิ่งแห้งเสีย
บำรุงผมแห้งเสียอย่างไรให้ตรงจุด
กินอาหารบำรุงผม
เรามาเริ่มที่อาหารการกินกันก่อนเลย หมอขอแนะนำให้กินอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินดี และวิตามินอี เพราะคนที่ผมแห้งเสียมักขาดสารอาหารเหล่านี้ วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินดี และวิตามินอี ยังทำหน้าที่เป็นโคแฟ็กเตอร์ควบคุมการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะในการสร้างน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเส้นผม ช่วยให้ Cuticle บนพื้นผิวของเส้นผมปิด ไม่หลุดลอกง่าย
เลือกแชมพูเป็น & สระผมถูกวิธี
ใช้แชมพูและคอนดิชันเนอร์ที่มีค่าความเป็นกรด – ด่างที่สมดุล (PH Balance) ดังนั้นการเลือกแชมพูสำหรับผมแห้งแตกปลายควรดูส่วนผสมที่มีคำว่าแอซิด (Acid) อยู่ด้วย เช่น แล็กติกแอซิด (Lactic Acid) ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) จะทำให้เราได้แชมพูที่มีค่าความเป็นกรด – ด่างน้อยลง และมีส่วนผสมบำรุงสำหรับผมแห้ง เช่น น้ำมันมะพร้าว โคโคนัทออยล์เชียบัตเตอร์ ที่สำคัญอย่าสระผมทุกวัน อย่าสระผมแล้วนอนเลย อย่าดรายผมบ่อยถ้าดรายให้เป่าลมอุณหภูมิปกติ อย่าใช้ลมร้อน เสร็จแล้วควรซับผมแล้วห่อผมด้วยผ้าขนหนู ปล่อยให้ผมค่อยๆ แห้งหมาด จากนั้นเป่าด้วยลมอุณหภูมิปกติจนแห้งสนิทวิธีนี้ช่วยให้ผมกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
ปกป้องเส้นผม
หากนอนห้องแอร์ แนะนำให้ตั้งแก้วน้ำไว้ใกล้ๆ เพื่อสร้างความชื้นในอากาศ หากต้องตากแดดนาน ๆ หรือไปว่ายน้ำ แนะนำให้ชโลมน้ำมันป้องกันไม่ให้ความร้อนทำร้ายเส้นผมและป้องกันน้ำไม่ให้ระเหยออกไป เลือกน้ำมันที่บางเบา ซึมซาบง่าย ใช้ได้หมดทั้งน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโดน้ำมันนีม น้ำมันอัลมอนด์ โดยควรใช้น้ำมันจากพืชที่เป็นออร์แกนิกจะดีที่สุด
บำรุงล้ำลึก
คนที่มีผมแห้งเสียง่าย นอกจากการหมักผมด้วยน้ำมันที่นิยมทำกันแล้ว (ต้องหมักครั้งละ 30 นาที ถึงจะได้ผลดีนะคะ) หมอขอแนะนำสูตรมาสก์ผมสำหรับเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมโดยเฉพาะ ดังต่อไปนี้ค่ะ
สูตร 1 HEY HAIR MASK
มาสก์ผมสูตรนี้มีชื่อว่า HEY ชื่อน่ารักๆ นี้ย่อมาจากตัวอักษรตัวแรกของชื่อส่วนผสมทั้งสามอย่าง คือ น้ำผึ้ง (Honey) ไข่ (Egg) และโยเกิร์ต (Yogurt) รับรองว่ามาสก์แล้วมีเฮแน่นอน เพราะเติมความชุ่มชื้นได้ลึกถึง Cuticle เลยทีเดียว เนื่องจากโยเกิร์ตมีแล็กติกแอซิด ไข่มีโปรตีนช่วยสมาน Cuticle น้ำผึ้งช่วยเติมความชุ่มชื้น
ส่วนผสม
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ (ใช้ทั้งไข่แดงและไข่ขาว) 2 ฟอง
โยเกิร์ต 1 ถ้วย
แอลมอนด์ (ถ้ามี)
วิธีทำ
ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ชโลมลงบนเส้นผม แล้วคลุมผมไว้ 30 นาที เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินีการ์ผสมกับน้ำสะอาดอย่างละครึ่ง จะใช้น้ำมะนาวหรือมะกรูดแทนก็ได้ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำให้คิดถึงภูมิปัญญาการสระผมด้วยมะกรูดของคนโบราณซึ่งช่วยให้ผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงหรือแตกปลายง่าย นั่นเพราะวิธีนี้เป็นการสร้างสภาพความเป็นกรด ซึ่งดีต่อผมและหนังศีรษะนั่นเอง
สูตร 2 DIY SHEA BUTTER HAIR MASK
สูตรนี้ สามารถเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้ถึงขีดสุด สำหรับคนที่ผมแห้งเสียมากแต่เนื่องจากบ้านเราหาเชียบัตเตอร์ได้ยาก จึงขอแนะนำสูตรที่สามารถเติมความชุ่มชื้นได้ใกล้เคียงกับเชียบัตเตอร์ ลองทำดู
ส่วนผสม
เนยแท้ (ประมาณครึ่งก้อน) 100 กรัม
ไข่ 2 ฟอง
น้ำมันมะกอก / น้ำมันมะพร้าว 1-2 ถ้วย
วิธีทำ
ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ชโลมลงบนเส้นผม แล้วคลุมผมไว้ 30 นาที เสร็จแล้วล้างออกด้วยวิธีเดียวกับสูตรที่ 1
ข้อมูล: ผู้จัดการออนไลน์